ต้นกำเนิดกัญชา ในประเทศไทย
ต้นกำเนิดกัญชา ในปัจจุบัน กัญชาหรือ WeedBong เป็นเรื่องที่ต้องถามถึงในสังคมและวงการการแพทย์ต่อสู้กับความอนุรักษ์กับสารสำคัญนี้ ด้วยข้อจำกัดในระเบียบและกฎหมาย ทำให้มีความสงสัยและความขัดแย้งในรู้จักกัญชาอย่างถูกต้อง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจลึกลงเกี่ยวกับ WeedBong420 รวมถึงประโยชน์และประสิทธิภาพของมันทางทัศนิยมและการแพทย์ และปรากฏการใช้ที่รับรองเส้นทางที่ถูกต้อง โปรดอ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมกัญชาเป็นสมุนไพรพื้นเมืองที่มีกำเนิดมาจากภูเขาสมองของทวีปเอเชีย. เป็นพืชสัตว์เลี้ยงสัตว์ขึ้นมาในพื้นที่ที่มีพืชสมุนไพรเป็นวิถีชีวิตหลัก กัญชามีประวัติยาวนานเป็นพืชที่มีความค้นพบก่อนประวัติศาสตร์ในยุคสมัย, การใช้กัญชากลับมาเป็นหัวข้อข่าวสารและแก่งข่าวสารในการพิจารณาเรื่องนิตยสารฮิปปีที่พักในสิงคโปร์และแคลิฟอร์เนีย. การพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับกัญชาและการยุติธรรมในการใช้กัญชาก็กลายเป็นประเด็นสำคัญในยุคนี้
ประวัติการใช้กัญชา
การใช้กัญชามีประวัติมากว่า 3000 ปี โดยครั้งแรกที่เริ่มใช้น่าจะเป็นในพื้นที่แอฟริกาและภูมิภาคแอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชที่มีคุณสมบัติทางยาที่ทรงพลัง ในประเทศอินเดีย เขาพบว่ากัญชาใช้เป็นยาและยาสูบ รวมถึงประเพณีในการใช้กัญชาในพิธีกรรมทางศาสนาของพวกเขาในสมัยอยุธยาในประเทศไทย (ประมาณ 1350-1767 คริสต์ศักราช), กัญชามีการใช้ในการรักษาโรคและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทย. การปลูกกัญชานั้นได้รับการส่งเสริมโดยรัชกาลทั้งหลายในสมัยนั้นความเป็นมิตรกับกัญชาในอินเดีย, กัญชาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอินเดียมาเป็นพันธุ์โดยใช้เพื่อทานและเครื่องดื่ม, ในการรักษาโรค, และในการใช้ในพิธีกรรมศาสนา เช่นในศาสนาฮินดูและศาสนาอีสลามการขนส่งไปยังภุมิภูมิใต้
กัญชาในสมัยใหม่
ในสมัยใหม่นี้ การใช้กัญชาอยู่ในระยะเริ่มต้นของการกำจัดข้อบกพร่องของกฎหมายในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามยังคงมีความขัดแย้งในเรื่องนี้ ซึ่งเนื่องจากข้อห้ามที่ต่างกันในแต่ละประเทศและรัฐ แม้ว่าสภาวะนี้จะเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ อยู่ในปัจจุบันการใช้กัญชาทางกฎหมายมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับสถานที่ เช่น ในประเทศบ้านเมืองของคุณมีกฎหมายที่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางกฎหมายหรือไม่ ในบางประเทศ เช่น แคนาดา และหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา การใช้กัญชาทางกฎหมายได้รับการยอมรับและเพื่อทางการแพทย์และการบันทึก การวางขายกัญชาในร้านค้าที่อนุญาตในบางท้องที่เรียกว่า “ร้านขายกัญชา” ก็เริ่มขึ้น
กัญชาในสมัยใหม่
ดอกกัญชาสีม่วงใช้ทำยา คือพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis และมีสรรพสามิตที่มีสารที่เรียกว่า “cannabinoids” ซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ สารสำคัญสองชนิดในกัญชาคือ THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) และ CBD (cannabidiol) ซึ่งมีผลกระทบทางจิตและทางร่างกายต่างกัน ดอกกัญชาสีม่วงทางการแพทย์
- THC เป็นสารที่ทำให้คนรู้สึก “high” หรือมีความรู้สึกสุขใจและผ่อนคลาย แต่ก็สามารถมีผลกระทบทางจิตอย่างหลงลืมหรือเพ้อฝัน ในทางการแพทย์ THC มีฤทธิ์ทางต้านอาการคลื่นไส้อาเจียน และสามารถช่วยควบคุมความปวดของคนที่เจ็บป่วยร้ายแรง
- CBD ไม่มีผลกระทบทางจิตและเป็นสารที่มีฤทธิ์ทางต้านอักเสบ และมีศัลยภาพในการควบคุมลั่นไก มีการศึกษาหลายรายงานที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ CBD ในการช่วยรักษาโรคต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี ข้อเสียของกัญชา
ข้อดีของกัญชา
- หากคุณกำลังเบื่ออาหาร มีความอยากอาหารน้อยลง การรับประทานกันชาสามารถช่วยให้คุณมีความอยากอาหารมากขึ้น
- รู้สึกไม่สบาย มีอาการวิงเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน การรับประทานกันชาสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ในใบกัญชามีสาร Cannabinoids หากผู้ที่มีอาการซึมเศร้าได้สารรับตัวนี้ สามารถลดพฤติกรรมรุนแรงทางด้านอารมณ์ลงได้
- ในงานวิจัยได้ค้นพบว่า สาร THC ที่อยู่ในใบกัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- กัญชาทำให้เนื้องอกเนื้อร้ายอย่างมะเร็งหดเหี่ยวลดลงได้
- ผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ การรับประทานกัญชาจะช่วยให้คุณหลับสบายมากขึ้น
ข้อเสียของกัญชา
- เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์กระตุ้นประสาท หากผู้เสพใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ผู้เสพมีอาการมึนเมาคล้ายเหล้า เห็นภาพหล่อน หูแวว หวาดระแวง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ไม่ควรเสพกัญชา เพราะจะส่งผลให้เกิดความสับสน วิตกกังวล สมาธิสั้น จนถึงขั้นเสียการทรงตัว
- การเสพกัญชาในปริมาณและติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายของคุณเสื่อมโทรมและอาจก่อให้เกิดโรคได้ง่ายขึ้น เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง น้ำหนักตัวลดลง ซูบผอม
- กัญชายังทำให้ปริมาณอสุจิในเพศชายลดน้อยลง เพราะมีฤทธิ์ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของเพศชาย
- การสูบกัญชาในปริมาณ 4 ม้วน เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 ซอง และยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้มากกว่าคนสูบบุหรี่สูงถึง 5 เท่า
กัญชาเป็นยารักษาโรค/ภาวะอาการที่สามารถใช้ยากัญชาได้
6 โรค/ภาวะอาการ ที่สารกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษา โดยมีข้อมูลวิชาการสบับสนุนชัดเจน ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักน้อย
- การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต
4 กลุ่มโรค / ภาวะ ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากสารกัญชา แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคปลอกประสาทอักเสบอื่น ๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง)
- โรคอื่น ๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการว่าน่าจะได้ประโยชน์
คนที่ไม่สามารถใช้ยากัญชาได้
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีความเสี่ยงสูงในการทำร้ายตนเอง
- โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตจากสารเสพติด โรคจิตเภท
- รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคไต ที่มีอาการรุนแรง
- มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา